วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ความตาย

"...ความตาย..."

    เมื่อวันหนึ่งความตายต้องมาพากคนในครอบครัวเราไปซึ่งไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่าเราจะตายแบบนั้นบางคนก็ตายไปแบบสงบบางคนก็ตายแบบไม่ตั้งใจบางคนก็ตายแบบตั้งใจทั้งๆที่รู้ว่าการฆ่าตัวตายมันบาปบางคนบวชมาตั้งหลายพรรษาพอสึกมาได้ไม่กี่ปีก็ฆ่าตัวตาย...ทำให้คนที่บ้านคิดไม่ถึงว่าทำไมถึงฆ่าตัวตายไม่แปลกหลอกที่บางคนถึงฆ่าตัวตายทุกคนที่ฆ่าตัวตายต่างก็มีความเครียดบางคนก็หนี้ความผิด...ก็เหมือนลุงเราที่ฆ่าตัวตายเชื่อว่าไม่มีใครหลอกที่ไม่รู้จักเพราะอะไรน่ะหรอก็มันเป็นข่าวดังน่ะสิตอนลุงตายน่ะแปลกดีที่ไม่มีใครรู้เลยว่าทำไมถึงฆ่าตัวตายคิดกันไปต่างๆนาๆมีอีกอย่างที่ตลกดีผูกคอตายหน้าบ้านแต่เราออกไปหน้าบ้านไปมองหาลุงหน้าบ้านแต่ไม่เห็น...ใครเป็นคนเห็นอะหรอพ่อเราเอง
พ่่อเราเห็นร้องเลี้ยงส่ะตกใจตอนนั้นอ่ะเราก็ยังไม่รู้เรื่องน่ะว่าเป็นอะไรจนกระทั่งตำรวจหน่วยกู้ภัยถึงรู้ว่าลุงเสีย..แล้วคนที่บ้านก็ไม่ให้บอกย่าเพราะอะไรน่ะหรอกลัวว่าย่าจะน๊อกเลยจะไม่บอกแต่ทำไงได้ละยังไงก็ต้องรู้เพราะว่าตายที่หน้าบ้าน(ที่ต้นอินทรี) ไม่มีใครรู้สาเหตุการตาย แล้วอยู่ดีๆ เริ่มมีเด็กผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวข้องคนทางบ้านเราก็ยังสงสัยว่าทำไมถึงเด็กคนนี้ถึงเกี่ยวกับการตายของลุงได้ยังไง เรื่องก็เริ่มกระจ่างขึ้นมาอีก ทางเราก็เริ่มรู้ว่าลุงเป็นคนไปรับเด็กคนนี้มาจากโรงเรียน..แล้วเด็กนั้นก็ไปบอกครูว่าผู้ปกครองมารับ  ครูก็ให้กลับไม่เสือกออกมาดูหน้าผู้ปกครองหน่อยเลย แล้วลุงก็พาเด็กคนนั้นไปไหนต่อไหนนั้นก็ไม่รู้ไปกระทั่งเขาสมิงแล้วก็กลับไปสวนยาง(อยู่ที่ท่ากุ่ม)แล้วสุดท้ายลุงก็ฆ่าเด็กคนนั้นด้วยการข่มขืนแล้วก็โยนลงน้ำหลังจากลุงทำเสร็จก็ต้องทำร้ายหลักฐานสิค่ะ..แต่คนทางบ้านก็ยังไม่เชื่อหลอกน่ะว่าลุงจะเป็นคนทำเพราะมันไม่มีทางจะเป็นไปได้เลยที่ว่าลุงจะทำเพราะโดยส่วนตัวลุงเป็นคนรักเด็ก-
ผู้หญิงแต่เราก็ยังคิดว่าถ้าลุงจะไม่มีทางทำคนเดียวได้แน่ๆ..มันจะต้องมีคนร่วมด้วย  การที่ลุงเราเลือกทางนี้อาจเป็นเพราะไม่อยากให้คนที่อับอาย อยากจะให้คนชื่อนี้หายไปจากโลกนี้ และลุงคงอยากจะให้ความจริงทั้งหมดตายไปพร้อมกับลุง  คนที่มันไม่รู้เรื่องมันก็ว่าครอบครัวเราไปต่างๆนาๆ เราไม่สามารถไปห้ามความคิดใครได้นอกจากจะให้คนพวกนั้นคิดกันไปอีไม่นานหลอกคนคงจะลืมกันเอง  
เอ่ออีกอย่างตอนลุงเราเสียมันเป็นวันเสาร์แล้วพอถึงวันที่เราจะไปเรียน...เราถึงกับไม่กล้าไปเรียนเลยดิเพราะอะไรอ่ะหรอเรารู้ไงว่าคำถามแรกที่จะเข้ามาในหัวเราไงก็คือ ลุงเป็นไรเสีย ทำไมถึงเขาทำอย่างนั้น
แล้วสุดท้ายอ่ะหรอมันก็เป็นอย่างที่เราคิดแต่ตอนนี้เรื่องทุกอย่างที่เริ่งหายไปแล้วเริ่มไม่มีใครพูดถึงตอนนี้มีแต่คนอย่างฝันเห็นลุงแต่ลุงก็ไม่เคยมาหาเราเลยแม้แต่ในฝันพวกเราไม่มีใครพูดถึง


    ต้นไม้ที่ลุงได้ผูกคอตายยังอยู่หน้าบ้านฉันอยู่เลยไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่ตัดทิ้งแต่บ้างคนก็บอกว่ามันเป็นของหลวงต้องขอเวลาให้มันล้มเองแต่มันต้องใช้เวลานานและสิ่งที่หน้ากลัวสำหรับฉันมากที่สุดคือต้นไม้ต้นนี้มันอยู่ตรงข้างกับห้องที่ฉันนอนไม่ว่าจะตื่นนอนหรือจะทำอะไรอยู่ในห้องก็จะเห็นต้นไม้ต้นนั้นมันทำให้ฉันหลอนมากเลยและขนาดห้องลุงที่ฉันเคยนอนฉันยังไม่กล้าเข้าไปเลยถึงฉันจะกล้ามากขนาดไหนก็ต้องทำเป็นเหมือนไม่กลัว...แต่การที่ไม่ตัดต้นไม้นี้ทิ้งมันก็เป็นการดีเหมือนกันน่ะมันเป็นเหมือนไว้คอยเตือนใจเราไม่ให้เราคิดทำร้ายตัวเอง...ร่างกายเราพ่อแม่อุส่าห์สร้างมา ตัวเราพ่อแม่อุส่าห์เฝ้าดูแลในยามที่เราคิดที่จะฆ่าตัวตายมันอาจจะเป็นทางแก้ปัญหาแต่เมื่อเราตายไป..เราจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าคนข้างหลังรักเราและห่วงเรามากขนาดนั้น...(มันน่าเสียใจน่ะที่เกิดมาทั้งที่ไม่ได้ทดแทนคุณพ่อแม่แต่กลับต้องมาทำให้พ่อแม่เสียใจ..ร้องไห้เหมือนว่าเราได้ทำบาปอันใหญ่หลวง)
.
.
.
.
.
.
ข้อคิด...อยากให้คนที่เข้ามาอ่านสิ่งที่ตัวฉันได้เขียนอยากให้เกิดแง่คิดดีๆกับทุกคน
ถ้าเรื่องพวกนี้ไม่เกิดขึ้นกับครอบคัรวใครจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าสิ่งเหล่านี้ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวคนนั้นมันเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ

   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น